สอบ 15วันรู้ผล กระทิงแดงรุกป่า เช่าห้วยเม็กปกปิดข้อมูล

โดย ACT โพสเมื่อ Sep 13,2017

  - - สำนักข่าวเดลินิวส์ - -

 

มท.1 กร้าว! ขีดเส้น 15 วันตรวจสอบเอกสาร การขออนุญาตก่อสร้างโรงงาน กระทิงแดงในป่าชุมชน "ห้วยเม็ก" จ.ขอนแก่น ส่งรองอธิบดีกรมที่ดินลงพื้นที่ลุยสอบ ลั่นหากพบมีการหมกเม็ดเอกสารคัดค้านของชาวบ้านฟันไม่เลี้ยง พร้อมย้ำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตทันทีหากทำผิดเงื่อนไข ด้าน "อธิบดีที่ดิน" ออกโรงชี้ป่า "ห้วยเม็ก-คุมมุม" ไม่ใช่ป่าต้นน้ำพอง ยันไม่มีลักษณะทางน้ำสาธารณะไหลผ่าน ส่วน รอง ผวจ.ขอนแก่น ระบุก่อนอนุมัติป่าห้วยเม็กเสื่อมโทรมจริง แต่ต่อมาฝนตกทุกวันจนกลายเป็นป่าสมบูรณ์ขึ้นตามธรรมชาติ ขณะที่ "กระทิงแดง" ร่อนหนังสือแจงสื่อยืนยันทำตามระเบียบทางราชการทุกเม็ด

 

          จากกรณี จ.ส.อ.อดุลศักดิ์ เล่ห์กัน นายก อบต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ออกมาเปิดเผยกรณีที่มีเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ "ปฏิบัติการ หมาเฝ้าบ้าน" ขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศ ไทย) เผยแพร่เอกสาร 2 ฉบับ ระบุว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2559 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ลงนามอนุมัติให้บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ใช้ที่สาธารณะห้วยเม็ก บ้านหนองแต้ หมู่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบล รัตน์ เนื้อที่ 31 ไร่ 2 งาน เป็นที่กักเก็บน้ำสำหรับโรงงานน้ำดื่มและเครื่องดื่ม ระบุที่ดินแปลงดังกล่าวมีสภาพแห้งแล้ง ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ ราษฎรไม่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน และระบุอีกว่าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ราษฎรในพื้นที่ และ อบต. พิจารณาแล้วเห็นควรอนุมัติการประกาศการขออนุญาตใช้ที่ดิน ไม่มีผู้ใดคัดค้าน ล่าสุดนายอำเภออุบลรัตน์ นำเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบผืนป่าห้วยเม็ก พบเป็นป่าสมบูรณ์ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

          ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ก.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องการขอใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์สามารถขอได้ ไม่ว่าจะเป็นเอกชน ราชการ หรือภาคประชาชน โดยขอใช้ได้ตามระเบียบ 5 ปี แต่หากมีการทำผิดเงื่อนไขก็สามารถเพิกถอนได้ในทันทีเช่นกัน ซึ่งกระบวนการขอใช้พื้นที่จะต้องทำประชาพิจารณ์จากประชาชน ส่งเรื่องมายังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แล้วมาสู่คณะกรรมการจังหวัด จากนั้นจึงส่งเรื่องมายังกรมที่ดินแล้วมาเข้า ระดับกระทรวง ตนยืนยันว่าการดำเนินการตามกระบวนการเหล่านี้ถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งหากพบใครทำผิดไม่ว่าเจ้าหน้าที่ระดับใดก็ต้องรับโทษ

 

          ทั้งนี้ เมื่อช่วงดึกของวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้ตรวจสอบเรื่องนี้ทั้งคืนแล้วพบว่า มี ประชาชนเห็นคัดค้านกับเรื่องดังกล่าว แต่เหตุใดไม่มีเอกสารที่ประชาชนไม่เห็นด้วยส่งขึ้นมา ซึ่งเรื่องนี้ได้ส่งรองอธิบดีกรมที่ดินลงไปตรวจสอบในพื้นที่แล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยจะต้องตรวจสอบคณะกรรมการทั้งหมดว่ารู้เรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เป็นไปตามเงื่อนไข จะต้องดำเนินการยกเลิกการขอใช้พื้นที่ดังกล่าวโดยทันที และต้องดำเนินการหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ทั้งนี้ ได้สั่งการไปว่าให้ตรวจสอบเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จใน 15 วัน ถ้าทราบว่ามีการใช้เอกสารที่ไม่ครบขึ้นมาทางกระทรวงก็จะเพิกถอน

 

          "ส่วนที่มีความเป็นห่วงกันมากในเรื่องป่าชุมชนนั้น ขอเรียนว่าที่ดินเป็นคนละแปลงกัน ห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งที่ดินตรงนั้นไม่มีการขออนุญาตใช้ ส่วนกรณีที่มีการปิดถนนเพื่อใช้เป็นเส้นทางส่วนตัว เรื่องนี้ไม่ต้องรอคณะกรรมการ สามารถไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายได้ เพราะไม่มีใครสามารถปิดถนนหลวงได้ อย่างไรก็ตามขอย้ำอีกครั้งว่าหากใครใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเพื่ออะไรก็แล้วแต่ และหากมีการทุจริตจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย" รมว.มหาดไทย กล่าว

 

          ทางด้านนายประทีป กีรติเรขา อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวชี้แจงในกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ห้วยเม็กและลำห้วยคุมมุมเป็นต้นน้ำของลำน้ำพองว่า กรมที่ดินได้ประสานงานกับ อ.อุบลรัตน์ เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏว่าที่สาธารณประโยชน์ห้วยเม็ก บริเวณที่บริษัทฯ ได้รับอนุญาตฯ เดิมชาวบ้านเรียกว่า "ฮอมเม็ก" เนื้อที่ 31-2-63 ไร่ ตั้งอยู่ หมู่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ ลักษณะมีไม้เบญจพรรณ ในฤดูแล้งจะมีสภาพแห้งแล้ง ในฤดูฝนจะมีน้ำฝนขังในบริเวณที่ลุ่มต่ำประมาณ 1-3 ไร่ ทั้งนี้ ห้วยเม็กสาธารณประโยชน์ไม่มีลักษณะทางน้ำสาธารณะไหลผ่าน พื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วนมีลักษณะเป็นหนองน้ำกักเก็บในฤดูฝน สำหรับลำห้วยคุมมุมตรวจสอบแล้วปรากฏว่าไหลผ่านป่าชุมชนป่าช้าสาธารณประโยชน์บ้านหนองแต้ หมู่ 5 ต.บ้านดง ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่ได้มีการอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ ในที่ดิน

 

          ส่วนนายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเรื่องนี้เป็นการอนุญาตช่วง นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น สมัยนั้นและเสียชีวิตไปแล้ว จากการตรวจสอบแล้วพบว่า การดำเนินการทุกอย่างได้ผ่านกระบวนการของจังหวัดขอนแก่น กระทั่งไปถึงกระทรวงมหาดไทยที่ได้มีการพิจารณาอีกชั้นหนึ่ง ดังนั้นจึงเป็นไปตามเงื่อนไขที่ภาครัฐอนุญาตให้ไช้ได้ตามใบอนุญาตเลขที่ 3/2559 วันที่ 11 ก.ค. 2559 เมื่อมีผู้ร้องเข้ามาที่จังหวัด จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายใน 15 วัน โดยมีประเด็นว่าคำร้องเรียนมาจากราษฎรในพื้นที่ที่แท้จริงหรือไม่ มีจำนวนเท่าใด และได้รับความเดือดร้อนอย่างไร

 

          "ก่อนที่จะมีการอนุญาตให้บริษัทดังกล่าวได้ก่อสร้างโรงงาน ในแปลงห้วยเม็กสาธารณ ประโยชน์ อ.อุบลรัตน์ มีสภาพป่าที่แย่เพราะเป็นพื้นที่แห้งแล้ง แต่ปัจจุบันได้มีฝนตกลงมาอย่างมากแทบทุกวัน ทำให้สถานที่ดังกล่าวเกิดความชุ่มชื่นขึ้นมา ป่าไม้ก็เติบโตขึ้นมาตามธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อมีผู้ร้องเรียนเข้ามาจึงเป็นหน้าที่ของจังหวัดต้องเร่งตรวจสอบ เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป" รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าว

 

          ทั้งนี้ บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้เข้าไปซื้อที่ดินบริเวณโดยรอบป่าชุมชนตั้งแต่ช่วงปี 2555 และขอใช้ที่ดินเพื่อขยายโรงงานช่วงปี 2558 ซึ่งเรื่องคาราคาซังเรื่อยมา โดยถูกคัดค้านจากสภาองค์กรชุมชน ต.บ้านดง มาตลอด ก่อนที่ มท.1 จะอนุมัติให้ใช้ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกัน

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน นายหนูเดิด เหล่าสะอาด อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 6 บ้านหนองแต้ ต.บ้านดง พร้อมด้วยชาวบ้านเข้าสำรวจต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ภาย ในป่าห้วยเม็ก หลังมีบางต้นถูกน้ำท่วมกำลังยืนต้นตาย เนื่องจากมีการทำคันดินกักเก็บน้ำของโรงงานกระทิงแดง โดยพบว่าต้นไม้บางต้นถูกล้อมด้วยพลาสติกโปร่งใส และบางต้นถูกย้ายไปปลูกยังที่อื่น โดยนายหนูเดิด เผยว่า จากการที่เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนที่จะมีเหตุการณ์อนุญาตให้ใช้ที่ป่าชุมชน ได้มีการล้อมต้นไม้เพื่อให้พร้อมที่จะย้ายไปปลูกที่อื่น โดยบางต้นได้ย้ายไปปลูกบ้างยังภายในบริเวณโรงงานที่กำลังสร้างแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นไม้หายากหลายชนิด เช่นต้นกระโดน ต้นนกกด ต้นประดู่ ต้นพันชาด และต้นชาเดน เป็นต้น แสดงให้เห็นว่าป่าไม้ในบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์ จนผู้ที่มาก่อสร้างโรงงานต้องการที่จะนำไปปลูกในโรงงานของตัวเอง

 

          ขณะที่ตัวแทนของบริษัทกระทิงแดง (ไม่เปิดเผยนาม) ได้ส่งหนังสือชี้แจงต่อสื่อมวลชน เกี่ยวกับกรณีใช้ป่าชุมชนห้วยเม็กว่า การดำเนินการของบริษัทฯ ในการขออนุญาตใช้พื้นที่บริเวณที่สาธารณะห้วยเม็ก เป็นการดำเนินการตามระเบียบ ข้อบังคับและขั้นตอนทางกฎหมายของหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องครบถ้วนทุกประการ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอให้ความมั่นใจว่าจะปฏิบัติตามเงื่อนไขในการได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่สาธารณะห้วยเม็กนี้ ในการเก็บกักน้ำอย่างเคร่งครัด โดยบริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะดูแลอนุรักษ์พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สีเขียวต่อไป

 

 

 

 

 

 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน